โรคสะเก็ดเงินสาเหตุที่แน่ชัดยังไม่ทราบ แต่มีหลักฐานสนับสนุนว่าน่าจะเกิดจากความบกพร่องของระบบอิมมูน ร่วมกับความผิดปกติของสารพันธุกรรม กระตุ้นให้เซลล์ผิวหนัง เจริญเร็วกว่าปกติจากที่ใช้เวลา 28-30 วันในการเจริญเต็มที่และหลุดออกไป แต่ในผู้ป่วยสะเก็ดเงิน วงจรนี้จะลดลงเหลือเพียง 2-3 วัน ทำให้ผิวหนังมีการหนาตัวขึ้นและมีสะเก็ดจำนวนมาก
สะเก็ดเงิน คือโรคผิวหนังเรื้อรังชนิดหนึ่งที่ไม่ใช่โรคติดต่อ ลักษณะของโรคสะเก็ดเงิน คือ มีผื่นแดง หากเป็นมากผู้ป่วยอาจมีเลือดออกในปื้นได้ มีเกล็ดสีเงินขึ้นที่ผิวหนัง และลุกลามเข้าไปในเล็บ หรือมีการอักเสบของข้อต่าง ๆ สามารถขึ้นได้ทุกส่วน มักพบ บริเวณ ข้อศอก เข่า หลัง หลังมือ หลังเท้า หนังศีรษะ และใบหน้า อาการของโรค จะเป็น ๆ หาย ๆ อยู่ตลอด ไม่หายขาด สามารถพบได้ในคนทุกวัย ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่
1. โรคสะเก็ดเงินคืออะไร
โรคสะเก็ดเงินเป็นโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรังที่พบบ่อย มีชื่อภาษาอังกฤษว่า “Psoriasis” ลักษณะรอยโรคเป็นผื่นแดงนูนหนา มีสะเก็ดสีขาว ลอกเป็นขุยจำนวนมาก เป็น ๆ หาย ๆ
2. โรคสะเก็ดเงินติดต่อหรือไม่
โรคสะเก็ดเงินไม่ติดต่อ เนื่องจากไม่ได้เกิดจากเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา ดังนั้นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วย จึงไม่ต้องกังวลที่จะติดโรคนี้
3. ทำไมจึงเป็นโรคสะเก็ดเงิน
ในปัจจุบัน สาเหตุที่แน่ชัดยังไม่ทราบแต่มีหลักฐานสนับสนุนว่าน่าจะเกิดจากความบกพร่องของระบบอิมมูน ร่วมกับความผิดปกติของสารพันธุกรรม กระตุ้นให้เซลล์ผิวหนัง เจริญเร็วกว่าปกติจากที่ใช้เวลา 28 – 30 วันในการเจริญเต็มที่และหลุดออกไป แต่ในผู้ป่วยสะเก็ดเงิน วงจรนี้จะลดลง
เหลือเพียง 2 – 3 วัน ทำให้ผิวหนังมีการหนาตัวขึ้นและมีสะเก็ดจำนวนมาก
4. โรคสะเก็ดเงินพบบ่อยแค่ไหน
โรคสะเก็ดเงินพบประมาณร้อยละ 1 – 2 ของประชากรทั่วโลก ผู้ชายและผู้หญิงมีโอกาสเป็นโรคนี้ใกล้เคียงกัน ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีอาการเมื่อมีอายุระหว่าง 20 – 30 ปี สำหรับประเทศไทยยังไม่มีการศึกษาถึงอุบัติการณ์ และความชุกของโรคในประชากรทั่วไป จากสถิติผู้ป่วยที่มาตรวจที่แผนกผิวหนังของโรงพยาบาลใหญ่ในกรุงเทพฯ พบได้ประมาณ 10 %
5. การวินิจฉัยโรคสะเก็ดเงิน ทำได้อย่างไร
แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคสะเก็ดเงินจากการตรวจรอยโรคของผู้ป่วย ไม่ต้องการการตรวจเลือด หรือการตรวจทางห้องปฏิบัติการอื่นๆ ในกรณีย์พิเศษที่พบน้อยมากคือ รอยโรคมีลักษณะต่างไปจากรอยโรคมาตรฐาน อาจต้องทำการตัดตัวอย่างผิวหนังไปตรวจทางพยาธิวิทยา
6. ผื่นสะเก็ดเงินมีกี่แบบ
รอยโรคสะเก็ดเงินที่พบบ่อยที่สุดคือ มากกว่า 80% ของผู้ป่วย มีลักษณะเป็นผื่นแดงนูน หนา รูปร่างกลม และมีสะเก็ดจำนวนมาก นอกจากนี้ยังพบผื่นผิวหนังได้อีกหลายลักษณะ คือ
– ผื่นขนาดเล็กๆ เป็นตุ่มนูนแดง มีขุยกระจายทั่วไป บริเวณลำตัวและแขนขา
– ผื่นเป็นตุ่มหนองตื้นบนรอยโรคสีแดง
– ผื่นแดงอักเสบบริเวณซอกรักแร้ ซอกขา
– ผื่นแดงลอกทั้งตัว
7. ผื่นสะเก็ดเงินพบบริเวณใดของร่างกายบ้าง
ตำแหน่งที่พบบ่อยได้แก่ หนังศีรษะ ผิวหนังที่มีการเสียดสี แกะเกาเช่น ศอก เข่า ลำตัว ก้นกบ แต่ก็สามารถพบได้ทุกแห่งของร่างกาย ได้แก่ เล็บ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า อวัยวะเพศ เป็นต้น การกระจายของผื่น มักจะเท่ากันทั้งสองข้างของร่างกาย
8. ใครมีโอกาสเป็นสะเก็ดเงินได้บ้าง
การคาดการณ์ว่าจะเกิดสะเก็ดเงินหรือไม่ สามารถทำได้แม่นยำ ผู้ป่วยสะเก็ดเงิน 1 ใน 3จะมีประวัติญาติเป็นสะเก็ดเงินด้วย แต่การเกิดโรคไม่ขึ้นกับปัจจัยทางพันธุกรรมเพียงอย่างเดียว
9. โรคสะเก็ดเงินจะกำเริบได้จากสาเหตุใดบ้าง
สิ่งแวดล้อมที่มีหลักฐานว่ากระตุ้นโรคสะเก็ดเงิน ได้แก่ การเสียดสี การกระทบกระแทกแกะเกา บาดแผล ปัจจัยทางจิตใจและสังคมเช่น ความเครียด การดื่มเหล้า โรคติดเชื้อ คออักเสบ สารเคมีบางอย่าง เช่น ยาลดความดันชนิดต้านเบต้า ยาจิตเวช เช่น Lithium ยาต้านมาเลเรีย เป็นต้น
Recent Comments